เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๕ ผู้เขียนได้มีโอกาสพบท่านมนตรี นามขาน
อัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการสูงสุด งานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจังหวัดเชียงใหม่(สคช.) ในวันที่ท่านได้ให้เกียรติไปบรรยายความรู้ทางกฎหมายเรื่องการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท
ที่โรงแรม เดอะ ปาร์ค ผู้เขียนจึงได้เรียนถามท่านมนตรีถึงการที่ผู้ไกล่เกลี่ยฯ
ที่มีบัญชีรายชื่อประจำอำเภอ
ตามกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง พ.ศ.๒๕๕๓ ต่างเข้าใจว่ากฎกระทรวงได้ให้ผู้ไกล่เกลี่ยฯ สามารถเข้าทำการไกล่เกลี่ยความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญาในส่วนของที่เป็นความผิดอันยอมความได้
จึงขอปรึกษาเพื่อทำความเข้าใจให้แก่ผู้ไกล่เกลี่ยฯ ด้วย
ท่านมนตรีได้ชี้ให้เห็นว่า ตาม
พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๕๐ (ฉบับที่๗) มาตรา ๑๔
ระบุมีใจความดังนี้
มาตรา ๑๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นมาตรา ๖๑/๑
มาตรา ๖๑/๒ และมาตรา
๖๑/๓ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
๒๕๓๔
มาตรา
๖๑/๑.......
มาตรา
๖๑/๒.......
มาตรา
๖๑/๓ บรรดาความผิดที่มีโทษทางอาญาที่เกิดขึ้นในเขตอำเภอใดหากเป็นความผิดอันยอมความได้ และมิใช่เป็นความผิดเกี่ยวกับเพศ ถ้าผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหายินยอม หรือแสดงความจำนง
ให้นายอำเภอของอำเภอนั้นหรือปลัดอำเภอที่นายอำเภอดังกล่าวมอบหมายเป็นผู้ไกล่เกลี่ย
ตามควรแก่กรณี และเมื่อผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหายินยอมเป็นหนังสือตามที่ไกล่เกลี่ยและปฏิบัติตามคำไกล่เกลี่ยดังกล่าวแล้ว ให้คดีอาญาเป็นอันเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา.......
และเมื่อได้มีออกกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยความผิดที่มีโทษทางอาญา
พ.ศ.๒๕๕๓ ข้อ ๓ ได้กำหนดไว้ดังนี้
ข้อ
๓ บรรดาความผิดที่มีโทษทางอาญาที่เกิดขึ้นในเขตอำเภอใด ถ้าผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหายินยอมหรือแสดงความจำนงให้มีการไกล่เกลี่ย ให้นายอำเภอหรือปลัดอำเภอของอำเภอนั้นเป็นผู้ไกล่เกลี่ยตามควรแก่กรณี
จึงเห็นได้ว่าในกฎกระทรวงได้กำหนดให้นายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้ที่นายอำเภอมอบหมาย
เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยความผิดที่มีโทษทางอาญาที่เป็นความผิดอันยอมความได้เท่านั้น หาได้ให้ผู้ไกล่เกลี่ยฯ ทำหน้าที่นี้ได้ไม่
ส่วนผู้ที่สามารถทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยความผิดที่มีโทษทางอาญาที่เป็นความผิดอันยอมความได้ นอกจากความผิดทางแพ่ง ด้วยการมีกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับกำหนดให้ไว้ ก็จะมีผู้ประนีประนอมประจำศาล, พนักงานอัยการ, และคณะกรรมการหมู่บ้านหรือที่เรียกว่า กม. นั่นแหละ
ส่วนผู้ที่สามารถทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยความผิดที่มีโทษทางอาญาที่เป็นความผิดอันยอมความได้ นอกจากความผิดทางแพ่ง ด้วยการมีกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับกำหนดให้ไว้ ก็จะมีผู้ประนีประนอมประจำศาล, พนักงานอัยการ, และคณะกรรมการหมู่บ้านหรือที่เรียกว่า กม. นั่นแหละ
ชัดเจนแล้วนะครับ
ท่านมนตรียังได้ให้ความเห็นอีกว่า เนื่องจากความผิดที่มีโทษทางอาญาที่เป็นความผิดที่ยอมความได้นั้น
เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่มีผลทางด้านจิตใจของคนในชุมชนที่จะต้องรู้รับผิดรับชอบ
การให้นายอำเภอหรือปลัดอำเภอที่นายอำเภอมอบหมายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานปกครองมีหน้าที่อำนวยความเป็นธรรม
สร้างความสมานฉันท์และความสามัคคีให้เกิดขึ้นในท้องที่เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย จะเป็นผลดีที่ผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหาต่างได้รู้สึกว่าตนจะได้รับความยุติธรรมจากฝ่ายปกครองจนเป็นที่พอใจและทั้งสองฝ่ายจะยังไม่เสียความสัมพันธ์ที่มีต่อกันไปอีกด้วย
อนึ่ง ชมรมฯ
ขอแจ้งว่าคุณพึงพิศ สมนาวรรณ ประธานชมรมฯ
ได้นำหนังสือไปเรียนเชิญท่านมนตรี นามขาน ท่านนี้มาเป็นที่ปรึกษาชมรมฯ
ด้วยแล้ว นับว่าเป็นเกียรติแก่ชมรมฯ
อย่างยิ่ง ที่ได้นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญด้านการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทมาเป็นที่ปรึกษากฎหมาย ในนามของชมรมฯ และผู้มีจิตอาสา ขอขอบพระคุณท่านมนตรีมา
ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น