วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รายงานการประชุมชมรมฯ ครั้งที่ ๓


รายงานการประชุม
 ชมรมผู้ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง จังหวัดเชียงใหม่

            ประชุมเมื่อวันที่  ๒๔ เมษายน  ๒๕๕๕ ณ ห้องประชุมศูนย์ฯ ยาเสพติด  ชั้น ๒  ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่  โดยนางพึงพิศ   สมนาวรรณ  ประธานชมรมฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม  มีผู้ไกล่เกลี่ยฯ อำเภอต่างๆ จำนวน  ๑๖  คน จากจำนวน ๔๕  คน  คิดเป็นร้อยละ  ๓๖   เข้าร่วมประชุม  

ผู้ไกล่เกลี่ยฯที่เข้าประชุม        

๑.        นายอาคม                     สิงห์แก้ว            อำเภอสันป่าตอง
                        ๒.        นายมานิต                     บุญอ่อน            อำเภอสันป่าตอง
                        ๓.        นางวรวรรณ                  มหานันทโพธิ์     อำเภอเมืองเชียงใหม่
                        ๔.        นายบุญส่ง                    สุขสามัคคี         อำเภอแม่ออน
                        ๕.        นายทวี                          วิวัฒนเจริญ       อำเภอสันกำแพง
                        ๖.        นายทนัน                       ภิวงศ์งาม          อำเภอแม่ออน
                        ๗.        นางพึงพิศ                     สมนาวรรณ       อำเภอเมืองเชียงใหม่
                        ๘.        นายวีระยุทธ                  บูรณะประภา     อำเภอสารภี
                        ๙.        นายณรงค์                     ปันดวง              อำเภอแม่ริม
                        ๑๐.      นายประกิต                    นามวงค์            อำเภอสารภี
                        ๑๑.      นายประกฤต                 คำดวงดาว         อำเภอดอยสะเก็ด
                        ๑๒.      นางสาวอวัสดา              สังสีแก้ว            อำเภอหางดง
                        ๑๓.      นายณัฐกิตติ์                  มูลพนัส            อำเภอแม่ออน
                        ๑๔.      นายเสงี่ยม                    รัตนา                อำเภอแม่วาง
                        ๑๕.      ร.ต.สุนันท์                     เทพทอง            อำเภอแม่ริม
                        ๑๖.      นางศตพร                      เทพทอง            อำเภอแม่ริม

เอกสารแนบ   
-          สรุปการบรรยายร่วมของชมรมฯ กับสถาบันจัดการทางสังคมฯ
-          หนังสือ”แนวทางการดำเนินกิจกรรมตามโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการเสริม
           สร้างความสมานฉันท์ในชุมชน” ของสำนักงานยุติธรรมจังหวัดและของกรมการปกครอง
-             บัญชีรายรับ-รายจ่าย ของชมรมฯ
-          ใบสมัครสมาชิกชมรมฯ
-          ใบสมัครเครือข่าย/อาสาสมัครคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ

เริ่มประชุมเวลา  ๑๐.๓๐  นาฬิกา

วาระที่ ๑     เรื่องที่ประธานที่ประชุม แจ้งให้ทราบ

ประธานกล่าวเปิดประชุม แจ้งว่ามีการเปลี่ยนแปลงห้องประชุม เนื่องจากห้องประชุมเดิมมีหน่วยราชการจองไว้ก่อนแล้ว  ซึ่งในช่วงต้นเดือน ห้องประชุมจะไม่ค่อยว่าง  ทางคุณธีทัต  ประกอบเที่ยง นิติกรชำนาญการ ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้จัดหาห้องประชุมของศูนย์ฯ ยาเสพติด ซึ่งว่างอยู่ให้เป็นสถานที่ประชุม  อาจทำให้ผู้ไกล่เกลี่ยที่มาล่วงเวลาเสียเวลาเพิ่มขึ้นบ้าง
ประธานบอกว่ายังไม่ได้รับหนังสือแจ้งการประชุมครั้งนี้ จึงอยากทราบวิธีการส่งหนังสือเชิญของเลขาฯ
นายวีระยุทธ บูรณะประภา เลขาฯ แจ้งว่าได้จัดทำหนังสือเชิญประชุมนี้ส่งตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๕ แก่สมาชิกและผู้ไกล่เกลี่ยแต่ละอำเภอด้วยวิธีสุ่ม รวมทั้งสิ้น ๕๒ ท่าน รวมทั้งส่งแก่นายธีทัต  ประกอบเที่ยง และนายทศน์พล   เอี่ยมโอษฐ์  ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ด้วย  โดยนายวีระยุทธฯ เองได้รับหนังสือเชิญฯ ที่ส่งให้ตนเองเพื่อตรวจสอบเวลาการรับในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ ๑๒ เมษายนฯ  แต่จากที่ได้รับการติดต่อจากผู้ไกล่เกลี่ย หนังสือจะถึงช้ามาก บางท่านพึ่งจะได้รับก่อนประชุมนี้เพียง ๒ วัน  จึงเป็นไปได้ที่อีกหลายท่านจะยังไม่ได้รับหนังสือเชิญ เชื่อว่ามีหนังสือเชิญสูญหายอีกบางส่วนด้วย
ประธานมีความเห็นว่า ในครั้งต่อไปให้นำหนังสือเข้ามาส่งที่ทำการไปรษณีย์เชียงใหม่ สันป่าข่อย ถนนเจริญเมือง อำเภอเมือง ซึ่งเป็นศูนย์ไปรษณีย์ของเชียงใหม่ อาจจะเร็วขึ้นและไม่มีการสูญหาย อีกทั้งอยากให้ทำการส่งหนังสือเชิญประชุมให้เร็วกว่านี้
นายประกฤต  คำดวงดาว  รองประธานฯ กล่าวว่า เนื่องจากเลขาฯ เป็นผู้จัดทำหนังสือเชิญมีบ้านอยู่อำเภอสารภี  จึงได้จัดส่งที่ไปรษณีย์สารภี ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน  จะสะดวกกว่า  หากจะให้เดินทางเข้ามาส่งยังไปรษณีย์ที่ประธานแนะนำ อาจทำให้เลขาฯ ต้องมีเวลาและเสียค่าใช้จ่ายเดินทางโดยไม่ควร
นายวีระยุทธฯ แจ้งว่า เหตุที่ส่งหนังสือเชิญช้า ก็เนื่องจากพึ่งจะปรึกษากำหนดวาระการประชุมนี้เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๕  ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์  และโดยเวลาปกติตนก็มีกิจธุระส่วนตัวประจำวันด้วย  ดังนั้นกว่าจะร่างหนังสือ นำไป copy  พิมพ์จ่าหน้าซองถึงผู้ไกล่เกลี่ย ไปส่งไปรษณีย์ติดแสตมป์  ก็ต้องมีเวลาและใช้เวลาที่นานพอสมควร อาจไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้  ประธานแนะให้เลขาฯ ซื้อแสตมป์มาติดซองที่บ้านเพื่อไม่ต้องเสียเวลาไปติดที่ไปรษณีย์  เลขาฯ แจ้งว่าในการส่งหนังสือแต่ละครั้ง เอกสารจะมีน้ำหนักไม่เท่ากัน  ไปรษณีย์จะต้องชั่งน้ำหนักเพื่อกำหนดอัตราค่าแสตมป์เสียก่อน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะซื้อแสตมป์มาติดล่วงหน้า  แต่ก็เสนอเพิ่มเติมว่าในการจะเชิญผู้ไกล่เกลี่ยมาประชุม  นอกจากการส่งหนังสือเชิญแล้ว ก็ขอความเห็นในที่ประชุมว่าควรจะแจ้งฯ ด้วยการส่งทาง SMS ด้วย แต่จะต้องเสียค่าส่งหมายเลขละ ๓ บาท   ส่วนการจะแก้ปัญหาที่หนังสือหายด้วยการส่งลงทะเบียนประมาณฉบับละ ๑๕ บาทนั้น จะสิ้นเปลืองเงินมาก
ที่ประชุมได้เห็นด้วยกับการส่งหนังสือทางไปรษณีย์ธรรมดาพร้อมทั้งแจ้งเตือนทาง SMS สำหรับการแจ้งประชุมในคราวต่อๆ ไป โดยให้เบิกค่าใช้จ่ายในการส่ง SMS จากชมรมฯ ได้
ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๕ ประธานและกรรมการชมรมฯได้เดินทางไปพบกับนายเกิดโชค   เกษมวงศ์จิตร  ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการระงับข้อพิพาท  กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและคณะ ณ โรงแรมฟูรามา โดยได้หารือในเรื่องของการที่จะผลักดันงานในหน้าที่ของผู้ไกล่เกลี่ยฯ จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น  ซึ่งรายละเอียดต่างๆ นายประกิต  คำดวงดาว รองประธานชมรม จะชี้แจงให้ทราบในวาระที่ ๕ ต่อไป

วาระที่ ๒     รับรองรายงานการประชุมเมื่อวันที่  ๑๗  มกราคม  ๒๕๕๕
            ที่ประชุมรับรองรายงานการประชุมเมื่อวันที่  ๑๗  มกราคม  ๒๕๕๕

วาระที่ ๓      ที่ตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง จังหวัดเชียงใหม่
          นายประกฤตฯ  แจ้งว่าจากการที่ได้เข้าพบกับผู้อำนวยการกองส่งเสริมการระงับข้อพิพาท  กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๕ นั้น ได้มีการหารือเกี่ยวกับสถานที่ที่จะเป็นศูนย์กลางที่ผู้ไกล่เกลี่ยของจังหวัดเชียงใหม่จะได้พบและประสานงานกันได้สะดวก ซึ่ง ผอ.เสนอว่าให้ทำป้ายศูนย์ฯ แล้วนำไปติดไว้ในส่วนของที่ทำการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ อาคารช้างเผือกเรสซิเดนท์ ซอย ๒  ถนนช้างเผือก  ต.ศรีภูมิ  อ.เมืองเชียงใหม่  หน้าสนามกีฬาเทศบาลฯ  โดยได้ประสานกับหัวหน้าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ให้เรียบร้อยแล้ว  ตนจึงได้มอบหมายให้เลขาฯ ทำป้าย “ศูนย์ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง จังหวัดเชียงใหม่” และได้นำคณะกรรมการชมรมฯไปพบกับหัวหน้าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ที่พึ่งย้ายมารับตำแหน่ง และขออนุญาตติดตั้งป้ายฯ นี้แล้ว      
     
วาระที่ ๔    แนวทางการดำเนินกิจกรรมของชมรมฯ
          ประธานแจ้งในที่ประชุมว่า ทางชมรมจะได้ทำการจดทะเบียนชมรมต่อกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งจะต้องมีเอกสารหลักฐานประกอบเช่น รายชื่อคณะกรรมการ วุฒิการศึกษา ความรู้ความเชี่ยวชาญ ผลงานที่ชมรมฯ ได้ดำเนินมาภายใน ๑ ปีพร้อมภาพประกอบ ฯ  ซึ่งเมื่อเป็นชมรมที่ได้รับการจดทะเบียนแล้วก็สามารถที่จะของบฯ จากองค์กร จากหน่วยงานของรัฐมาสนับสนุนกิจกรรมของชมรมฯ ได้ต่อไป 
            นายประกฤตฯ ได้นำหนังสือ ”แนวทางการดำเนินกิจกรรมตามโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความสมานฉันท์ในชุมชน” ชุดละ ๒ เล่ม แจกจ่ายให้แก่ผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอละ ๑ ชุด เพื่อศึกษาแนวทางที่ผู้ไกล่เกลี่ยควรที่จะเข้าใจแผนงานและควรที่จะดำเนินการในส่วนของแต่ละอำเภอ เพื่อให้สอดคล้องกับหน่วยงานของราชการ  
         นายประกฤตฯ แจ้งที่ประชุมให้ศึกษาตามเอกสารแผนโครงการพัฒนาบุคลากรผู้ไกล่เกลี่ย โดยนายเทิดศักดิ์  วงศ์คำปัน ผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอไชยปราการ ที่ได้แนบไปให้พร้อมกับหนังสือเชิญประชุม  แต่ทั้งนี้ชมรมฯ ก็ยังคงต้องรออาศัยเงินทุนหรืองบประมาณที่จะจากหน่วยงานหรือผู้มีจิตศรัทธาสนับสนุนให้ต่อไป
            นายทนัน  ภิวงศ์งาม ผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอแม่ออน  ถามในที่ประชุมว่า ในการจัดประชุมของชมรมฯ ทุกครั้งนี้ เป็นการจัดการประชุมกรรมการชมรมฯ หรือประชุมสมาชิกชมรมฯ   เลขาฯ ได้ขอตอบว่า ในการจัดประชุมทุกครั้ง อยากให้มีผู้ไกล่เกลี่ยมาเข้าร่วมประชุมให้มากๆ  จึงมิได้เป็นการประชุมเฉพาะกรรมการหรือเฉพาะสมาชิกชมรมฯ เพราะกรรมการชมรมฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่เริ่มตั้งชมรมฯ ก็มีหลายท่านที่มิได้มาร่วมประชุมอีกเลย และก็มีหลายๆ ท่านที่มาเข้าร่วมประชุม แต่ยังมิได้สมัครเป็นสมาชิกชมรมฯ ทางชมรมฯ อยากให้มีผู้ไกล่เกลี่ยมาเข้าร่วมประชุมเพิ่มมากขึ้น เพื่อระดมความคิดให้หลากหลาย อันจะเป็นประโยชน์ต่อชมรมฯ เป็นอย่างมาก        
             นายทนันฯ ถามต่อว่า หนังสือเชิญได้จัดส่งให้แก่ผู้ไกล่เกลี่ยของจังหวัดเชียงใหม่ทุกท่านหรือไม่  เลขาฯ ตอบว่า ไม่อาจจัดส่งให้แก่ผู้ไกล่เกลี่ยทั้งหมด ๖๐๓ ท่านได้  เนื่องจากจะมีค่าใช้จ่ายในการทำเอกสารและค่าส่งทางไปรษณีย์สูงมาก จึงต้องสุ่มส่งให้แก่ผู้ไกล่เกลี่ยด้วยพิจารณาจาก
      ๑.      ท่านที่เคยเข้าร่วมประชุม   
      ๒.      ท่านที่เคยแจ้งว่าจะมาเข้าร่วมประชุมหรือได้รับการแนะนำให้แจ้ง   
     ๓.      ท่านที่เลขาฯ คิดว่าน่าจะสะดวกในการเดินทางมาร่วมประชุม เพราะชมรมฯ ไม่มีงบช่วยค่าใช้จ่าย ในการเดินทางมาร่วมประชุม
        ซึ่งเมื่อได้รับการติดต่อกลับมาจากผู้ไกล่เกลี่ยที่ได้รับหนังสือเชิญ ขอให้บอกกล่าวต่อๆ  ไปยังผู้ไกล่เกลี่ยในอำเภอนั้นๆ ด้วย           
วาระที่ ๕   กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกับชมรมผู้ไกล่เกลี่ยฯ
          นายประกฤตฯ แจ้งว่า จากการได้หารือในเรื่องที่ชมรมผู้ไกล่เกลี่ยฯ ไม่มีทุนที่จะสนับสนุนการขับเคลื่อนฯ กับนายเกิดโชค   เกษมวงศ์จิตร  ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการระงับข้อพิพาท  กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้แนะนำว่า ผู้ไกล่เกลี่ยของจังหวัดเชียงใหม่ ควรสมัครเข้าเป็นเครือข่าย/อาสาสมัครคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ  ซึ่งจะมีงบประมาณสนับสนุนการปฏิบัติงานในด้านงานยุติธรรม  แต่ผู้ที่จะได้รับการคัดเลือกเป็นอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิฯ นี้ จะแบ่งเป็นสองส่วน  คือส่วนหนึ่ง ผู้ที่ได้ผ่านการฝึกอบรมงานด้านการยุติธรรม ที่จัดโดยกรมคุ้มครองสิทธิฯ หรือที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ ร่วมจัดการฝึกอบรมแล้วก็สามารถที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นอาสาคุ้มครองสิทธิฯ ปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที  อีกส่วนหนึ่ง คือผู้ที่ยังมิได้รับการฝึกอบรมฯ ก็จะต้องเข้ารับการฝึกอบรมที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะจัดขึ้น โดย ผอ.ได้แนะนำให้ทางชมรมฯ ดำเนินการชักชวนผู้ไกล่เกลี่ยฯ ของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีอยู่ ๖๐๐ กว่าท่านนี้ ให้ยื่นใบสมัครเป็นอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิฯ รวบรวมส่งไปยังกรมคุ้มครองสิทธิฯ เพื่อที่ทางกรมฯ จะได้วางแผนงานดำเนินการจัดการฝึกอบรมให้ต่อไป  สำหรับใบสมัครสามารถดาวน์โหลดจากเว็บไซท์ของกรมฯ หรือติดต่อขอที่เลขาฯ ชมรมฯ ได้

วาระที่  ๖    รับรองรายรับ-รายจ่ายของชมรมฯ
            นายวีระยุทธฯ ซึ่งได้รักษาเงินของชมรมฯ ไว้ระหว่างรอส่งมอบแก่เหรัญญิก  แจ้งว่าค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะหมดไปกับค่าถ่ายเอกสารที่จะแจกแก่ผู้ไกล่เกลี่ยฯ ที่เชิญมาประชุม กับค่าแสตมป์ ตามรายละเอียดในบัญชีรายรับ-รายจ่าย ที่แจกให้ก่อนการเริ่มประชุม โดยมียอดเงินคงเหลือ ณ วันที่  ๒๔ เมษายน  ๒๕๕๕  จำนวน  ๖๒๕  บาท ซึ่งค่าสมัครสมาชิกที่เก็บมาท่านละ ๒๐๐ บาทนั้น ก็แทบจะไม่พอกับค่าใช้จ่ายของชมรม แม้ผู้ไกล่เกลี่ยหลายท่านที่มีน้ำใจสนับสนุนกิจการชมรมฯ ด้วยการสนับสนุนเงินเมื่อคราวถึงวันคล้ายวันเกิดคือนายประกฤต  คำดวงดาว รองประธานชมรมฯ และนายทวี  วิวัฒนเจริญ  กรรมการฝ่ายกิจกรรม ท่านละ ๕๐๐ บาทแล้วก็ตาม
            เมื่อที่ประชุมทราบว่ายอดเงินชมรมฯ เหลือน้อยลง ประธานจึงขอมอบเงินสนับสนุนจำนวน  ๑,๐๐๐  บาท
            นายประกฤตฯ  สนับสนุนอีกจำนวน  ๕๐๐ บาท
นายอาคม  สิงห์แก้ว  กรรมการผู้ช่วยฝ่ายกฎหมาย แจ้งว่าลูกสาวคือนางสาววัชรีวรรณ  สิงห์แก้ว ขอสนับสนุนกิจกรรมชมรมฯ ซึ่งมีคุณพ่อเป็นกรรมการชมรมด้วยเป็นเงิน  ๒,๐๐๐ บาท เนื่องในวันมงคลสมรส เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๕ นี้
ทางชมรมฯ จึงต้องขอขอบพระคุณกรรมการและคุณวัชรีวรรณฯ บุตรสาวของกรรมการที่ได้มีน้ำใจสนับสนุนชมรมฯ ให้เดินหน้าต่อไปโดยไม่ต้องสะดุดหยุดพัก
ชมรมฯ จึงมีเงิน ณ วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕  จำนวนทั้งสิ้น   ๔,๑๒๕  บาท 
             ที่ประชุมรับทราบและอนุมัติให้จ่ายเงินตามเสนอ

วาระที่ ๗     เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
นายวีระยุทธฯ  ได้นำใบสมัครสมาชิกชมรมฯ  และใบสมัครเครือข่าย/อาสาสมัครคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มาแจกจ่ายในที่ประชุม โดยขอให้ตัวแทนแต่ละอำเภอนำไปถ่ายสำเนาแจกแก่ผู้ไกล่เกลี่ยที่มิได้มาประชุมและสนใจที่จะสมัครฯ และขอให้รวบรวมใบสมัครฯ ส่งแก่เลขาฯ ต่อไป
โดยในวันนี้ ได้มีผู้ไกล่เกลี่ยได้ใบสมัครเครือข่าย/อาสาสมัครคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว นำใบสมัคร มาส่งให้แก่เลขาฯ จำนวนดังนี้
อำเภอแม่ริม                  จำนวน  ๑๗  ท่าน
อำเภอสันทราย              จำนวน    ๑  ท่าน
อำเภอเมืองเชียงใหม่      จำนวน    ๑  ท่าน
อำเภอสันกำแพง            จำนวน    ๒  ท่าน

นางศตพร   เทพทอง  ผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอแม่ริม เสนอขอเข้ามาช่วยเหลือแบ่งเบางานด้านเอกสารที่เลขาฯ ได้ทำอยู่ เพราะตนทำงานอยู่ที่ ร.พ.สวนดอก นี้เอง อาจติดต่อประสานช่วยกันกับกับเลขาได้สะดวก ที่ประชุมรับทราบ ขอบคุณนางศตพรฯ และให้เลขาฯ คัดแบ่งปันงานเอกสารออกมาเพื่อที่จะแบ่งเบาภาระลงได้
นายวีระยุทธฯ  แจ้งว่า ได้ทำบล็อก(Blog) ของชมรมฯ ลงใน Internet   คือ
http://cm-peacemaker.blogspot.com/   หรือชื่อภาษาไทย “ชมรมผู้ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง จังหวัดเชียงใหม่”
ซึ่งได้ลงรายละเอียดต่างๆ ของชมรมฯ รวมทั้งรายชื่อผู้ไกล่เกลี่ยของทุกอำเภอ ในจังหวัดเชียงใหม่ ไว้ด้วย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ง่ายๆ ด้วยการเข้าไปที่ google แล้วพิมพ์คำว่า  ชมรมผู้ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง จังหวัดเชียงใม่ ก็จะปรากฏหัวเรื่องชื่อชมรมฯ ขึ้นมาแล้วคลิกเข้าไปอ่านได้ทันที  ขอให้เข้าไปดูและช่วยตรวจรายชื่อผู้ไกล่เกลี่ยของแต่ละอำเภอ ว่ามีท่านใดที่สะกดรายละเอียดผิดบ้าง เพราะเป็นรายชื่อที่ได้มาจากสารบบของคณะกรมการจังหวัดเชียงใหม่  โดยการแจ้งลงในความคิดเห็นหรือจะโทร.แจ้งมายังเลขาฯ ก็ได้
            ประธานได้กำหนดวันประชุมฯ ครั้งต่อไปในวันศุกร์ที่  ๒๕  พฤษภาคม  ๒๕๕๕   เวลา  ๙.๓๐  นาฬิกา  ณ ห้องประชุมเล็ก ชั้น ๒  ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
            ประธานกล่าวขอบคุณผู้ไกล่เกลี่ยทุกท่าน และปิดประชุม

มติที่ประชุม  ที่ประชุมรับทราบ
ปิดประชุมเวลา ๑๒.๐๐ นาฬิกา

                                                                                                                                                                                                                            ลงชื่อ
                                                                                                           ประธานที่ประชุม
                                                                                                   (   นางพึงพิศ   สมนาวรรณ   )
                                                                                                            ประธานชมรมฯ
                                                                                                           ๐๘๑-๘๘๒๕๘๗๓
ลงชื่อ
                      ผู้บันทึกการประชุม
           (   นายวีระยุทธ     บูรณะประภา   )
                       เลขานุการชมรมฯ
                      ๐๘๑-๙๕๑๒๖๗๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น