วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เหตุเกิดที่โรงพยาบาลสารภี



เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงที่ภรรยาผู้เขียนประสพด้วยตัวเอง  เมื่อประมาณ ๒ ปีที่แล้วนี่เอง

เธอเป็นผู้เล่า  ผู้เขียนเป็นผู้เรียบเรียง

: : : : :

น้าจัน น้าชายของภรรยาผู้เขียน อายุ ๗๐ ปีเศษ ฟันกรามผุ มีอาการปวดฟันมาหลายวันแล้ว กินยาจนกระทั่งหายปวด  ก็มาให้ภรรยาผู้เขียนพาไปหาหมอเพื่อไปถอนฟันซี่นั้นออกซะ  ภรรยาผู้เขียนก็พาไปที่ โรงพยาบาลสารภี ไปแผนกทันตกรรม อยู่ตึกด้านหลัง

เมื่อหมอได้ทำการถอนฟันซี่กรามซี่นั่นออกไปแล้ว ก็เอาผ้าก๊อซฆ่าเชื้ออุดแผลที่ถอนฟันให้น้าจันอมไว้  แล้วบอกให้ไปรอรับยาที่ตึกข้างหน้า

ระหว่างนั่งรอรับยาอยู่นั้น น้าจันบอกภรรยาผู้เขียนว่าผ้าก๊อซซับเลือดเต็มแล้ว  อยากเปลี่ยนผ้าก๊อซใหม่แทน  ภรรยาผู้เขียนก็เลยชวนน้าจันเดินไปที่ห้องฉุกเฉินที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อไปขอเปลี่ยนผ้าก๊อซจากพยาบาลในห้องนั้น

เมื่อถึงหน้าห้องฉุกเฉิน ภรรยาผู้เขียนบอกให้น้าจันนั่งรออยู่หน้าห้อง ภรรยาผู้เขียนจะเข้าไปบอกพยาบาลให้ทราบก่อน

เมื่อภรรยาผู้เขียนเปิดประตูเข้าไปในห้อง พบพยาบาลกำลังจัดเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับรองรับคนไข้ฉุกเฉินอยู่ 3 คน  ภรรยาผู้เขียนจึงบอกพยาบาล

ภรรยาผู้เขียน   “คุณพยาบาล  น้าดิชั้นมาถอนฟันแล้วผ้าก๊อซซับเลือดจนล้นเต็มปากแล้ว จะมาขอเปลี่ยนก้อนใหม่ค่ะ”

พยาบาล   “คนไข้อยู่ไหนคะ”

ภรรยาผู้เขียน   “อยู่หน้าห้องค่ะ”

พยาบาล   “รีบพาเข้ามาข้างในเลยค่ะ จะเปลี่ยนให้เดี๋ยวนี้เลย”

พยาบาลทั้งสามก็วางมือจากการจัดเครื่องไม้เครื่องมือ แล้วไปหยิบเอาคีมเครื่องมือเพื่อคีบผ้าก๊อซจากหม้อนึ่งฆ่าเชื้อ ส่วนภรรยาผู้เขียนก็หันกลับไป เพื่อไปตามน้าจันให้เข้ามาในห้อง  บังเอิ๊ญ  บังเอิญว่ามีลุงแก่คนหนึ่ง อายุพอๆ กับน้าจัน เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาในห้องพอดี คุณพยาบาลทั้งสามก็เข้าใจว่าเป็นน้าจันที่คงจะอมผ้าก๊อซที่ชุ่มเลือดจนจะล้นปากไม่ไหวต้องรีบเข้ามา และคงด้วยจิตวิญญาณของความห่วงใยในสุขภาพของคนไข้ คุณพยาบาลก็รีบเดินเข้าไปหาลุงคนนั้นทันที 

พยาบาล   “ลุง  เร็ว มานั่งนี่เลย เดี๋ยวจะจัดการให้”

พูดเสร็จก็ตรงไปจูงมือลุง รั้งตัวให้นั่งลงที่เก้าอี้อย่างเร็ว  ลุงแกก็ทำหน้าตาเหรอหรา คงสงสัยว่าอะไรกันวะ มาจับข้าทำไมวะ เป็นที่งงยิ่งนัก

พยาบาลคนหนึ่งรีบเอาคีมเครื่องมือเดินมาหาลุง เพื่อเตรียมมาคีบผ้าก๊อซชุ่มเลือดออกจากปาก  ส่วนพยาบาลคนที่จับลุงให้นั่งลงนั้น ก็ได้จับคอจับคางลุงให้แหงนหน้าขึ้น แล้วบอกลุงอย่างเร็ว 

พยาบาล  “ลุง อ้าปากเร็ว  อ้ากว้างๆ”

พยาบาลท่านนั้นบอกพลาง เอามือจับคางลุงง้างปากให้อ้ากว้างๆ  พยาบาลอีกคนก็เอาคีมเตรียมที่จะคีบก้อนผ้าก๊อซออก ไปจ่อที่ปากลุง ส่วนลุงที่กำลังงงอยู่นั้น พอได้สติก็ส่งเสียงเพื่อพูดบอกอะไรสักอย่างแก่พยาบาล  แต่เนื่องจากโดนมือพยาบาลล็อคทั้งคอทั้งคาง ก็เลยไม่สามารถส่งเสียงเป็นภาษาที่รู้เรื่องกันได้ เสียงที่ออกมาจึงเป็นเสียงบ่งบอกถึงอาการตกใจกึ่งโวยวายดังเป็นชุดเลย 

ลุง    @ & ! ? % $ ฿  ”
 

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นด้วยความรวดเร็วมาก จนภรรยาผู้เขียนเองที่กำลังจะบอกพยาบาลทั้งสามว่าน้าชายตนยังนั่งรออยู่ข้างนอก ไม่ใช่ลุงคนนี้ ก็ไม่ทันการซะแล้ว แค่เห็นลุงกำลังโดนพยาบาลทั้งสามรวมพลังเป็นแท็คทีมจับลุงเฮดล็อคอยู่ ก็ปล่อยก๊าก  หัวเราะน้ำหูน้ำตาเล็ด จนพอตั้งสติได้ก็บอกกับพยาบาลทั้งสาม 

ภรรยาผู้เขียน   “ไม่ใช่ลุงคนนี้ค่ะ  ไม่ใช่  ไม่ใช่”

แต่พยาบาลทั้งสามคงไม่ทันได้ยิน ยังคงมัวแต่ล็อคลุงเพื่อให้อ้าปาก ส่วนลุงแกก็ไม่ยอมอ้า  แกพยายามดิ้นรนสู้  ใช้มือไม้ปัดป้องกันตัวสุดแรง(ชรา)เหมือนกัน 

พยาบาล   “ลุง อย่าดิ้นซิ  อ้าปากด้วยเร็วๆ  หนูจะเปลี่ยนผ้าให้”

ลุง ซึ่งค่อนข้างผอมแห้ง ไม่อาจต่อสู้ให้ตัวเองเป็นอิสระจากพยาบาลทั้งสามได้ ก็เอาแต่ดิ้น  ดิ้น และดิ้น
ส่วนภรรยาผู้เขียนที่เอาแต่หัวเราะ จนพอจะยั้งสติได้แล้ว ก็บอกกับพยาบาลใหม่อีกครั้งดังๆ กว่าเดิม 

ภรรยาผู้เขียน   “ คุณพยาบาล  ไม่ใช่ลุงคนนี้  น้าหนูนั่งรออยู่ข้างนอกห้องค่ะ”

พยาบาลทั้งสาม พอได้ยินได้ความดังนั้น ก็หยุดกึ๊ก  มือค้าง หน้าค้างนิ่ง  รวมสายตามองมาที่ภรรยาผู้เขียนแล้วหันกลับไปจ้องมองที่ใบหน้าของลุง  ส่วนลุงนั้นเหรอ คอพับคออ่อนอยู่บนเก้าอี้แล้ว 

พยาบาล   “ อ้าว  ไม่ใช่ลุงนี้เหรอ”

พูดเสร็จ พยาบาลทั้งสามท่าน ก็ปล่อยก๊าก หันเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ใกล้ๆ ต่างเอามือกุมท้องตัวงอ หัวเราะลั่นห้องกันเลย

............

 

น้าจันก็ได้เปลี่ยนผ้าก๊อซก้อนใหม่ก่อนกลับบ้าน  ส่วนลุงยังคงอ่อนระโหย นั่งทำหน้าตางงๆ ต่อไปโดยภรรยาผู้เขียนเองก็ไม่รู้ว่า ลุงแกจะเข้าไปเอาอะไรในห้องฉุกเฉินจนกระทั่งทุกวันนี้

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น