วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บัตรประจำตัวเฉพาะกิจ

สำหรับแสดงตนในการเดินทางไปเยี่ยมศูนย์ไกล่เกลี่ยฯ อ.ดอยสะเก็ด ในวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖ นี้



วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กำหนดเข้าเยี่ยมศูนย์ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง อำเภอดอยสะเก็ด

            คณะกรรมการชมรมฯ จะได้เดินทางไปเยี่ยมศูนย์ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง ณ ที่ว่าการอำเภอดอยสะเก็ด ในวันพุธที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖  เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. โดยได้รับอนุเคราะห์จากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ทำหนังสือแจ้งไปยังนายอำเภอดอยสะเก็ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

           นอกจากจะได้พบปะกับผู้ไกล่เกลี่ยผู้มีบัญชีรายชื่อของอำเภอดอยสะเก็ดแล้ว  ยังจะได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปัญหาและอุปสรรค์ในการปฏิบัติหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ย เพื่อที่จะได้ปรับปรุงเสนอแนะกับทางจังหวัดด้วย

สำหรับกรรมการชมรมฯ และผู้ไกล่เกลี่ยที่จะร่วมเดินทางไปด้วย มีรายชื่อดังนี้
               นางพึงพิศ         สมนาวรรณ        ประธานชมรมฯ
               นายทวี              วิวัฒนเจริญ       ฝ่ายกิจกรรม
               นางอรษา           ตันติพงศ์           เหรัญญิก
               นายวีระยุทธ       บูรณะประภา     เลขานุการชมรมฯ
               นายประกิต        นามวงศ์            ฝ่ายทะเบียน
               นายณรงค์         ปันดวง              ฝ่ายกฎหมาย
               นายกิติศักดิ์       จักราชย์             ผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอเมืองเชียงใหม่
               นายประสิทธิ์      ศรีโกไสย            ผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอเมืองเชียงใหม่
               นางวรวรรณ       มหานันทโพธิ์     ผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอเมืองเชียงใหม่
              นางสาวอวัสดา   สังสีแก้ว            ผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอหางดง
              พ.ต.ท.สมจิตร    บัวเล็ก               ผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอแม่แตง
              พ.ต.ท.ศิริ          พึ่งพุทธ             ผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอสันกำแพง
              นางชุติมณฑน์    บุรีรักษ์              ผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอสารภี

ผู้ไกล่เกลี่ยท่านใดประสงค์ที่จะร่วมเดินทางไปเยี่ยมศูนย์ไกล่เกลี่ยฯ ของอำเภอดอยสะเก็ดในครั้งนี้ ขอโปรดแจ้งไปที่นายวีระยุทธ  บูรณะประภา  เลขาฯ ชมรมฯ โทรศัพท์ ๐๘๑-๙๕๑๒๖๗๔  เพื่อที่จะได้ทำบัตรคล้องคอให้ต่อไปด้วย ส่วนหัวเรื่องที่จะไปพูดคุยกัน จะได้แจ้งให้ทราบภายหลังต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รายงานการประชุมชมรมฯ ครั้งที่ ๐๐๑/๒๕๕๖

รายงานการประชุม
 ชมรมผู้ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง จังหวัดเชียงใหม่

                                ประชุมเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖  ณ ห้องประชุม  ชั้น ๓  ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่   โดยนางพึงพิศ  สมนาวรรณ  ประธานชมรมฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม  มีผู้ร่วมประชุมจากอำเภอต่างๆ จำนวน ๘  ท่าน และเจ้าพนักงานจากที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่อีก ๒ ท่าน  เข้าร่วมประชุม  
  
ผู้เข้าประชุม    
นางพึงพิศ       สมนาวรรณ                                   อำเภอเมืองเชียงใหม่
นายประสิทธิ์    ศรีโกไสย                                     อำเภอเมืองเชียงใหม่
นางวรวรร       มหานันทโพธิ์                                 อำเภอเมืองเชียงใหม่
นายวีระยุทธ    บูรณะประภา                               อำเภอสารภี
นายประกิต      นามวงศ์                                       อำเภอสารภี
นายทวี           วิวัฒนเจริญ                                   อำเภอสันกำแพง
พ.ต.ท.สมจิตร   บัวเล็ก                                         อำเภอแม่แตง
นายประกฤต    คำดวงดาว                                  อำเภอดอยสะเก็ด

ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่
นายธีทัต     ประกอบเที่ยง   นิติกรชำนาญการ    ๐๘๑-๗๘๕๖๐๐๘
นายอำนาจ  มหายนต์         เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ    ๐๘๖-๑๙๒๙๑๔๔     

เอกสารระหว่างประชุม                
-     รายงานการประชุมครั้งที่ ๗  วันที่  ๑๑  กันยายน  ๒๕๕๕

เริ่มประชุมเวลา  ๑๓.๓๐  นาฬิกา

วาระที่ ๑     เรื่องที่ประธานที่ประชุม แจ้งให้ทราบ

ประธานกล่าวเปิดประชุม หลังจากที่ทางชมรมฯ ได้ชลอการนัดประชุม ตามที่ได้แจ้งไว้ในที่ประชุมคราวที่แล้วว่าขอให้ผู้ไกล่เกลี่ยแต่ละอำเภอเร่งดำเนินการเปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยขึ้น เพื่อที่จะได้จัดการให้มีศูนย์ฯ ที่เป็นรูปธรรมขึ้น อีกทั้งเมื่อพบเห็นปัญหาใดๆ ที่เกี่ยวข้องก็ให้ทำการเก็บรวบรวมแล้วนำมาเปิดประชุมปรึกษาหารือกัน ซึ่งเมื่อประธานได้รับแจ้งจากสมาชิกว่าหลายอำเภอได้เปิดศูนย์ฯ และมีปัญหาที่ต้องได้รับการพิจารณาแก้ไข อีกทั้งมีความคืบหน้า มีข้อเสนอต่างๆ ที่จะมาแนะนำแก่สมาชิกด้วยกัน  ประธานจึงได้กำหนดให้มีการประชุมชมรมฯ กันในวันนี้     
ประธานแจ้งว่าได้ทำหนังสือพร้อมเอกสารของชมรมฯ รวมเป็นเล่มทั้งหมด ๑๖ เล่ม เสนอสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจดทะเบียนชมรมฯ ซึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เสนอขอจดทะเบียนจำนวน ๖๔ องค์กร ขณะนี้คำขอจดทะเบียนฯ ทั้งหมดได้ถูกส่งไปพิจารณาที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ แล้ว
นายวีระยุทธ  บูรณะประภา  เลขาชมรมฯ  แจ้งว่าเนื่องด้วยเป็นการกำหนดวันประชุมในระยะกระชั้นชิด  เกรงว่าการทำหนังสือเชิญประชุมส่งทางไปรษณีย์ อาจล่าช้าไม่ทันการ  จึงได้ทำการแจ้งกับกรรมการและสมาชิกที่อยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมือง โดยการส่งข้อความและโทรศัพท์แจ้งอีกครั้ง  สำหรับกรรมการและสมาชิกท่านอื่นๆ ที่มิได้กล่าวเชิญเนื่องด้วยเห็นว่าต้องเดินทางไกลและหลายๆ ท่านอาจรู้สึกว่าสิ่งที่ได้รับในการประชุม ไม่คุ้มกับเวลาที่ต้องเสียไปนั้น เลขาจะทำเอกสารต่างๆ ส่งให้พร้อมรายงานการประชุมครั้งนี้ต่อไป
ประธานบอกว่าในช่วงเวลาที่ชมรมฯ ว่างเว้นการประชุมนี้ ประธานได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรอบรมเรื่องการไกล่เกลี่ยฯ ในที่ประชุมต่างๆ ในท้องที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จำนวน ๓ ครั้งด้วยกัน ซึ่งในที่ประชุมนั้นๆ ได้ให้ความสนใจและเข้าใจวัตถุประสงค์ของการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งตามกฎกระทรวงเป็นอย่างมาก
ประธานเสนอให้มีการเก็บเงินค่าบำรุงของสมาชิกชมรมฯ ที่กำหนดไว้ปีละ ๒๐๐ บาท โดยคิดตามปี พ.ศ.เป็นหลัก ขอให้สมาชิกที่ทราบชำระค่าบำรุงนี้ต่อไปด้วย
นายธีทัต  ประกอบเที่ยง  นิติกรชำนาญการ แจ้งว่า นายทศน์พล   เอี่ยมโอษฐ์   เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการได้โยกย้ายหน้าที่ไปปฏิบัติราชการงานด้านบุคลากร จึงแนะนำนายอำนาจ  มหายนต์ เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ ที่จะเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงชมรมฯ แทนนายทศน์พลฯ ให้ที่ประชุมทราบและเพื่อการติดต่อประสานงานต่อไป
นายประกฤต  คำดวงดาว  แจ้งประธานว่า ในส่วนของผู้ไกล่เกลี่ยประจำอำเภอดอยสะเก็ดนั้น เมื่อต้นปี ๒๕๕๖ ทางปลัดอำเภอผู้ดูแลงานไกล่เกลี่ยฯ ได้แจ้งยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้ไกล่เกลี่ยของอำเภอดอยสะเก็ดทั้งหมด  โดยบอกว่าผู้ไกล่เกลี่ยจะครบวาระหมดอายุเมื่อถึงเวลาสิ้นปี แล้วให้ผู้ประสงค์จะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยยื่นใบสมัครยังอำเภอใหม่  แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่มีผลการประกาศขึ้นบัญชีรายชื่อผู้ไกล่เกลี่ยใหม่อีกเลย
นายธีทัต  ประกอบเที่ยง แจ้งที่ประชุมว่า การขึ้นบัญชีรายชื่อเป็นผู้ไกล่เกลี่ยตามกฎกระทรวงนี้ บุคคลนั้นๆ จะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยที่อยู่ในบัญชีรายชื่อไปตลอด ไม่มีวาระ เว้นแต่จะขาดคุณสมบัติตามกฎกระทรวง ข้อ ๖  คือ ตาย, ลาออก, นายอำเภอให้ออก, ไม่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ย หรือถูกถอดถอน  และการจะจัดทำบัญชีรายชื่อใหม่ มีแต่จัดขึ้นแทนเท่าจำนวนของผู้ไกล่เกลี่ยที่ต้องขาดคุณสมบัติเท่านั้น เห็นว่าอาจจะเป็นการเข้าใจผิดของปลัดอำเภอดอยสะเก็ด  ซึ่งเมื่อกล่าวเสร็จ นายธีทัตฯ ก็ได้รีบติดต่อไปยังอำเภอดอยสะเก็ด สอบถามข้อเท็จจริงที่ได้ปฏิบัติพร้อมทั้งชี้แจงกฎกระทรวงให้เข้าใจแล้ว  ก็ได้แจ้งให้นายประกฤตฯ รับทราบว่าทางปลัดอำเภอดอยสะเก็ดเข้าใจและจะคงบัญชีรายชื่อของผู้ไกล่เกลี่ยที่ไม่ขาดคุณสมบัติไว้ และจะตรวจสอบจัดทำการรับสมัครบุคคลเพื่อเป็นผู้ไกล่เกลี่ยทดแทนผู้ที่ขาดคุณสมบัติต่อไป  ส่วนการที่ผู้ไกล่เกลี่ยเดิมที่ได้ยื่นใบสมัครใหม่ไว้นั้น ให้ถือว่ายกเลิกการยื่นฯ โดยปริยาย

วาระที่ ๒     รับรองรายงานการประชุมเมื่อวันที่  ๑๑  กันยายน  ๒๕๕๕
                ที่ประชุมรับรองรายงานการประชุมเมื่อวันที่  ๑๑  กันยายน  ๒๕๕๕

วาระที่ ๓     การทำกิจกรรมของศูนย์ไกล่เกลี่ยฯ ประจำอำเภอ
                นายประสิทธิ์   ศรีโกไสย  เสนอให้จังหวัดแจ้งให้ที่ว่าการอำเภอแต่ละอำเภอมีการบรรจุวาระการประชุมเรื่องการไกล่เกลี่ยในการประชุมทุกสิ้นเดือนโดยมีผู้ไกล่เกลี่ยประจำอำเภอนั้นๆ เข้าร่วมประชุมด้วย
                นายธีทัต  ประกอบเที่ยง แจ้งว่าเรื่องนี้ได้เคยนำเสนอและทางจังหวัดได้เคยมีคำสั่งไปแต่ละอำเภอแล้ว แต่คงจะมิได้มีการบรรจุเข้าเป็นวาระทุกเดือนไป  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนายอำเภอจะเป็นผู้พิจารณาอีกด้วย
                นายประกฤต  คำดวงดาว เสนอให้กรรมการชมรมฯ ควรกำหนดการไปเยี่ยมศูนย์ไกล่เกลี่ยในแต่ละอำเภอ เพื่อเป็นการปฏิบัติภารกิจของชมรมฯ และเป็นการกระตุ้นงานด้านไกล่เกลี่ยของแต่ละอำเภอ ให้ความรู้ เพิ่มศักยภาพแก่ผู้ไกล่เกลี่ยในอำเภอนั้นๆ
                นายธีทัต  ประกอบเที่ยง  แจ้งว่าหากชมรมฯ ประสงค์ที่จะเดินทางไปเยี่ยมศูนย์ไกล่เกลี่ยที่อำเภอใด ขอให้ทำหนังสือเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมทั้งกำหนดวัน-เวลาที่จะเข้าเยี่ยม  ทางจังหวัดจะได้แจ้งให้อำเภอนั้นๆ เตรียมการต่อไป
                พ.ต.ท.สมจิตร  บัวเล็ก  เสนอว่าชมรมฯ ควรที่จะได้ร่วมลงพื้นที่กับทางอำเภอเพื่อที่จะได้ให้ชุมชนได้ทราบถึงการระงับข้อขัดแย้งในชุมชนด้วยการไกล่เกลี่ยตามกฎกระทรวงนี้อย่างทั่วถึง
                นายอำนาจ  มหายนต์  แจ้งว่า ในแต่ละอำเภอจะมีการจัดอำเภอเคลื่อนที่อยู่แล้ว หากชมรมฯ ประสงค์ที่จะเข้าร่วมอำเภอเคลื่อนที่ อาจทำได้ในลักษณะของการจัดเป็นโต๊ะหรือเป็นบู๊ทพร้อมมีแผ่นป้ายอธิบายออกไปพร้อม  หรือหากจะจัดขึ้น ณ ที่ว่าอำเภอเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ก็ได้เช่นกัน  โดยการทำหนังสือเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อสั่งการต่อไป
                นายทวี   วิวัฒนเจริญ  ให้ความเห็นว่าชมรมฯ จะต้องขับเคลื่อนงานการไกล่เกลี่ยฯ ให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและถี่ขึ้น จัดวางแผนงานการออกเยี่ยมศูนย์ไกล่เกลี่ยประจำอำเภอ แต่ในระหว่างที่ชมรมฯ ยังไม่ได้รับเงินอุดหนุน ก็ให้กรรมการช่วยกันสละเงินออกค่าใช้จ่ายต่างๆ กันไปก่อน 
นายประกฤต  คำดวงดาว  จึงเสนอให้ชมรมฯ ไปเยี่ยมศูนย์ไกล่เกลี่ยฯ ของอำเภอดอยสะเก็ดเป็นลำดับแรก  โดยเสนอกำหนดวันเข้าเยี่ยมเป็นวันพุธของเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖  สำหรับการเดินทางให้กรรมการร่วมเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวตามความเหมาะสม ที่ประชุมเห็นด้วย ประธานจึงเห็นควรว่าให้จัดยานพาหนะส่วนตัวและร่วมเดินทางไปกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งจะได้นัดหมายกันอีกครั้งต่อไป
นายธีทัต  ประกอบเที่ยง  บอกให้ชมรมฯ ทำหนังสือกำหนดการเยี่ยมศูนย์ฯ นี้ เรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อจะได้มีการประสานระหว่างจังหวัดกับอำเภอดอยสะเก็ดต่อไป
               
วาระที่ ๔      รับรองรายรับ-รายจ่ายของชมรมฯ
            ประธานแจ้งที่ประชุมว่า หลังจากการประชุมเมื่อวันที่ ๑๑  กันยายน  ๒๕๕๕  แล้ว ประธาน,เหรัญญิกและเลขา ได้เดินทางไปเปิดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สาขาบิ๊กซีเชียงใหม่แล้ว ชื่อบัญชี “ชมรมผู้ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง จังหวัดเชียงใหม่”  เลขที่บัญชี  ๘๔๒-๒๑๙๓๔๗-๙  โดยนำเงินฝากเข้าบัญชีส่วนหนึ่ง และให้เลขาซึ่งมีตำแหน่งผู้ช่วยเหรัญญิกอีกตำแหน่งถือเป็นเงินสดไว้อีกส่วนหนึ่ง แต่วันนี้เลขามิได้ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายมาเสนอที่ประชุมรับทราบ

วาระที่ ๕     เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
            นายประกิต   นามวงศ์  แจ้งในที่ประชุมว่า เมื่อประมาณเดือนมีนาคม ๒๕๕๖  ตนได้ไปร่วมการต้อนรับการตรวจงานการระงับข้อพิพาทในชุมชนของผู้ตรวจฯ จากกรมการปกครอง ณ ที่ว่าการอำเภอสารภี   ที่มาตรวจดูงานด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามกฎกระทรวงด้วยนั้น ตนในฐานะตัวแทนของผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอสารภี ได้ชี้แจงงานและแจ้งปัญหาทั่วๆ ไป ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำวิธีการปฏิบัติงานด้านการไกล่เกลี่ยฯ ให้มีความรวดเร็ว ยุติได้ด้วยความพึงพอใจของทุกฝ่าย การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามกฎกระทรวงนี้ สามารถทำการไกล่เกลี่ยได้ทั้งในเรื่องหนี้นอกระบบ หนี้เช่าซื้อ, ซื้อขายสินค้า ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องอาจเป็นบริษัทห้างร้านได้ทั้งนั้น โดยมีเป้าหมายให้ยุติข้อพิพาทได้ในชุมชนโดยไม่ต้องนำเรื่องที่พิพาทไปฟ้องร้องกันที่ศาล แต่ทุนทรัพย์ที่พิพาทต้องไม่เกินตามที่กฎกระทรวงกำหนดไว้ คือไม่เกินสองแสนบาท  กับในเรื่องเงินค่าตอบแทนของผู้ไกล่เกลี่ยที่มีไว้ให้เบิกจ่ายอยู่ที่จังหวัดนั้น  หากไม่มีการเบิกจ่ายหรือมีเงินคงเหลืออยู่ในปีงบประมาณ  ผู้ไกล่เกลี่ยในแต่ละอำเภออาจทำเรื่องขอเบิกเงินออกมาเพื่อใช้ในการฝึกอบรม, พัฒนาศักยภาพหรือประชาสัมพันธ์งานการไกล่เกลี่ยได้ โดยทำแผนงานเสนอนายอำเภอไม่เกินวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๖ นี้
                นายธีทัต  ประกอบเที่ยง ให้ความเห็นว่า เงินที่จังหวัดมีให้แต่ละอำเภอเบิกจ่ายเป็นค่าตอบแทนนี้ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ หากมีเหลือจ่ายอยู่  ก็ต้องส่งคืนกรมฯ ไม่อาจเบิกจ่ายมาใช้ผิดประเภทได้  ส่วนเงินที่จะเบิกออกมาเพื่อใช้ในการอบรมฯ นั้น อาจทำได้โดยน่าจะเป็นการตั้งเบิกจากเงินส่วนอื่นที่มิใช่เงินค่าตอบแทน  
                นายประสิทธิ์   ศรีโกไสย  กล่าวถึงการที่ชมรมฯ จะหาทุนเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกเพื่อพัฒนาศักยภาพและเพื่อการประชาสัมพันธ์ ซึ่งเคยมีสมาชิกแนะนำว่าให้ทำตู้รับบริจาคเงินตามสถานที่ต่างๆ นั้น น่าจะเป็นการดี ซึ่งอาจได้รับบริจาคที่มากพอที่ทางชมรมฯ จะนำมาใช้จ่ายในกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ได้สะดวกขึ้น
                นายทวี   วิวัฒนเจริญ  ให้ความเห็นว่าเมื่อทางชมรมฯ ได้ทำการขอจดทะเบียนชมรมฯ เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อขอรับเงินอุดหนุนจากหน่วยงานราชการนำมาดำเนินกิจกรรมแล้ว ก็ควรทำโครงการเสนอขอรับเงินอุดหนุนจากภาครัฐก่อน เพราะรัฐก็จะได้รับทราบถึงการปฏิบัติงาน การทำกิจกรรมของชมรมฯ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนด้วยอย่างสม่ำเสมอ  ส่วนการตั้งตู้รับบริจาค ให้เป็นทางเลือกอีกทางที่ชมรมฯ อาจทำได้  แต่ก็ไม่รังเกียจที่จะมีเอกชนรายใดจะนำเงินมาบริจาคให้ที่ชมรมฯ โดยไม่มีเงื่อนไข
                นายวีระยุทธ  บูรณะประภา  ได้แจ้งว่าจากการที่ตนได้เคยยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยที่อำเภอสารภีมาแล้วหลายเรื่อง  พบว่าปัญหาล่าช้าที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องจากการโยกย้ายของปลัดอำเภออาวุโสและปลัดอำเภอปฏิบัติการ  อีกทั้งงานด้านการปกครองของอำเภอที่ปลัดอำเภอทุกนายต้องรับผิดชอบนั้นมีมากมาย  จึงแนะนำว่าผู้ไกล่เกลี่ยของแต่ละอำเภอควรที่จะเข้าไปช่วยเหลืองานเอกสารการเข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ย  ซึ่งจะทำให้งานเดินได้เร็วขึ้น
                นายอำนาจ  มหายนต์  ให้ความเห็นเพิ่มว่าเนื่องด้วยมีการออกกฎหมายให้ฝ่ายปกครองมีอำนาจสอบสวนคดีอาญาบางประเภทรวม ๑๙ ฉบับ โดยให้ตำรวจมีหน้าที่จับกุมได้อย่างเดียว ไม่มีอำนาจสอบสวนนั้น ทำให้ปลัดอำเภอมีงานการสอบสวนคดีอาญาเพิ่มเติมเข้ามามาก หากอำเภอใดที่มีปลัดอำเภอปฏิบัติงานอยู่เพียง ๒ - ๓ นาย การปฏิบัติที่มีเข้ามาจึงต้องทำควบคู่กันไปในทุกงาน จึงอาจมีล่าช้าไปบ้าง
                นายวีระยุทธ  บูรณะประภา  แจ้งในที่ประชุมเพิ่มเติมว่าในการประชาสัมพันธ์งานของผู้ไกล่เกลี่ย ตนได้ออกแบบแผ่นพับประชาสัมพันธ์ แนะนำการระงับข้อพิพาทด้วยการไกล่เกลี่ยโดยนายอำเภอ ดังตัวอย่างที่ให้ที่ประชุมดูนี้ โดยได้รับการเห็นชอบจากปลัดอำเภอสารภี ผู้ดูแลงานการไกล่เกลี่ยฯ แล้ว ซึ่งแผ่นพับนี้จะให้กำนัน, ผู้ใหญ่บ้านนำไปแจกจ่ายในชุมชนของตน  ส่วนผู้ไกล่เกลี่ยอำเภอใดต้องการ ก็จะทำแบบให้เหมาะสมกับอำเภอนั้นๆ ต่อไป
               
                ในการประชุมครั้งต่อไป ประธานจะกำหนดวันประชุมหลังจากที่ได้กลับมาจากการเยี่ยมศูนย์ไกล่เกลี่ยฯ อำเภอดอยสะเก็ดและแจ้งให้ทราบต่อไป
               
                ประธานกล่าวขอบคุณผู้ไกล่เกลี่ยทุกท่าน และปิดประชุม
มติที่ประชุม  ที่ประชุมรับทราบ
ปิดประชุมเวลา ๑๖.๐๐ นาฬิกา

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                        
                                                                                         ลงชื่อ    พึงพิศ  สมนาวรรณ
                                                                                                             ประธานที่ประชุม
                                                                                                   (   นางพึงพิศ   สมนาวรรณ   )
                                                                                                            ประธานชมรมฯ
                                                                                                           ๐๘๑-๘๘๒๕๘๗๓

ลงชื่อ       วีระยุทธ  บูรณะประภา
                      ผู้บันทึกการประชุม
           (   นายวีระยุทธ     บูรณะประภา   )
                       เลขานุการชมรมฯ
                      ๐๘๑-๙๕๑๒๖๗๔
                wb-lawyer@hotmail.com


เชิญเยี่ยมอ่านบทความและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการไกล่เกลี่ยฯ ได้ที่ http://cm-peacemaker.blogspot.com/
หรือเข้าที่ google โดยพิมพ์ว่า “ชมรมผู้ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง จังหวัดเชียงใหม่”